001

001

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

บทที่ 4 E-COMMERCE

ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONIC BUSINESS)
          คือกระบวนการดำเนินธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีเครือข่ายที่เรียกว่าองค์การ เครือข่ายร่วม (Internetworked Network) ไม่ว่าจะเป็นการพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce) การติดต่อสื่อสารและการทำงาน ร่วมกัน หรือแม้แต่ระบบธุรกิจภายในองค์กร





การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONIC COMMERCE)
         คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ใ นทุกช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและ บริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไ ม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์โ ทรทัศน์วิทยุ หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โ ดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพขององค์กร โ ดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงาน ขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้า เป็นต้น จึงลดข้อจำกัดของ ระยะทาง และเวลาลงได้ 



การประยุกต์ใช้(E-commerce Application)
  1. การค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์(E-Retailing) 
  2. การประมูลอิเล็กทรอนิกส์(E-Auctions)
  3. การบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Service) 
  4. รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(E-Government) 
  5. การพาณิชย์ผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (M-Commerce : Mobile Commerce)



โครงสร้างพื้นฐาน (E-Commerce Infrastructure)
          องค์ประกอบหลักสำคัญด้านเทคโนโลยีพื้นฐาน ที่จะนำมาใช้เพื่อการพัฒนาระบบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนได้แก
  1. ระบบเครือข่าย (Network) 
  2. ช่องทางการติดต่อสื่อสาร (Chanel Of Communication)
  3. การจัดรูปแบบและการเผยแพร่เนื้อหา (Format & Content Publishing)
  4. การรักษาความปลอดภัย (Security)



การสนับสนุน (E-Commerce Supporting)
          สำหรับส่วนสนับสนุน ของ E-Commerce มีองค์ประกอบ 5 ส่วน
  1. การพัฒนาระบบงาน E-Commerce Application Development
  2. การวางแผนกลยุทธ์E-Commerce Strategy
  3. กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์E-Commerce Law 
  4. การจดทะเบียนโดเมนเนม Domain Name Registration 
  5. การโปรโมทเว็บไซต์Website Promotion



ขนาดของอีคอมเมิร์



Brick – and – Mortar Organization
          องค์กรเก่าเศรษฐกิจ (บริษัท ) ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของพวกเขา ธุรกิจแบบ off-line, การขายสินค้าทางกายภาพโดยวิธีการของตัวแทนทางกายภาพ

Virtual Organization
         องค์กรที่ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของพวกเขา แต่เพียงผู้เดียวออนไลน์

Click – and – Mortar Organization 
       องค์กรที่ดำเนินกิจกรรมอีคอมเมิร์ซบางอย่าง แต่ทำของพวกเขา ธุรกิจหลักในโลกทางกายภาพ







ประเภทของ E-Commerce
          กลุ่มธุรกิจที่ค้ากำไร (Profits Organization) 
  1. Business-to-Business (B2B) 
  2. Business-to-Customer (B2C) 
  3. Business-to-Business-to-Customer (B2B2C) 
  4. Customer-to-Customer (C2C) 
  5. Customer-to-Business (C2B) 
  6. Mobile Commerce



ประเภทของ E-Commerce 
          กลุ่มธุรกิจที่ไม่ค้ากำไร (Non-Profit Organization)
  1. Intrabusiness (Organization) E-Commerce 
  2. Business-to-Employee (B2E) 
  3. Government-to-Citizen (G2C) 
  4. Collaborative Commerce (C-Commerce)
  5. Exchange-to-Exchange (E2E) 
  6. E-Learning



E-Commerce Business Model แบบจำลองทางธุรกิจหมายถึง 
  • วิธีการดำเนินการทางธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้ อันจะ ทำให้บริษัทอยู่ต่อไปได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงกิจกรรมที่ช่วย สร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Add) ให้กับสินค้าและบริการ 
  • วิธีการที่องค์กรคิดค้นขึ้นมาเพื่อประยุกต์ใช้ทรัพยากร ขององค์กรอย่างเต็มที่ อันจะก่อให้เกิดผลกำไรสูงสุดและเพิ่ม มูลค่าของสินค้าและบริการ



ข้อดีและข้อเสียของ E-Commerce

ข้อดี 
1.สามารถเปิดดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง 
2.สามารถดำเนินการค้าขายได้อย่างอิสระทั่วโลก
3.ใช้ต้นทุนในการลงทุนต่ำ 
4.ไม่ต้องเสียค่าเดินทางในระหว่างการดำเนินการ 
5.ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์และยังสามารถประชาสัมพันธ์ในครั้งเดียวแต่ไปได้ทั่วโลก 
6.สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ใช้บริการอินเทอร์เนตได้ง่าย 
7.ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย 
8.ไม่จำเป็นต้องเปิดเป็นร้านขายสินค้าจริงๆ


ข้อเสีย
1.ต้องมีระบบการรักษาความปลอดภัยของระบบที่มีประสิทธิภาพ 
2.ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการอินเทอร์เนตได้  
3.ขาดความเชื่อมั่นในเรื่องการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต 
4.ขาดกฎหมายรองรับในเรื่องการดำเนินการธุรกิจขายสินค้าแบบออนไลน์ 
5.การดำเนินการทางด้านภาษียังไม่ชัดเจน







1 ความคิดเห็น: